5 ความเชื่อเกี่ยวกับครีมกันแดดที่อาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว..

เชื่อว่าทุกคนน่าจะได้ยินกันจนคุ้นหูกับคำแนะนำการดูแลผิวที่ไม่ควรมองข้ามอย่างการทาครีมกันแดดเป็นประจำว่าเป็นสเต็ปที่มีความสำคัญไม่แพ้การทำความสะอาดผิวหรือบำรุงด้วยเซรั่ม แต่ถ้าหากเพิ่งเข้ามาจอยคลับทากันแดดเพื่อกันผิวแก่ก่อนวัย เราจะช่วยทบทวนสั้นๆ ถึงคุณสมบัติของครีมกันแดด 

ทำไมเราถึงต้องใช้ครีมกันแดด?

ถึงแม้แสงแดดที่สาดส่องในระหว่างวันจะทำให้เรารู้สึกสดใส แต่ต้องบอกเลยว่ารังสียูวีทั้ง UVA และ UVB ที่มากับแสงแดดนั้นไม่ปราณีกับผิวหน้าของเราแม้แต่นิด โดยทั้ง 2 รังสียูวีทำงานกันเป็นทีม รังสี UVB ที่กระทบที่ใบหน้า จะทำร้ายผิวที่บริเวณพื้นผิว ส่งผลให้เมื่อโดนแดดนานๆ อย่างการนอนอาบแดด ผิวจะเกิดอาการไหม้ ส่วนรังสี UVA จะทะลุเข้าไปทำร้ายลึกถึงผิวชั้นในและเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวร่วงโรยก่อนวัยนั่นเอง ดังนั้นคงไม่ผิดที่เราจะมอบตำแหน่งฮีโร่แห่งสกินแคร์รูทีนให้กับครีมกันแดด โดยครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ SPF 30 ขึ้นไป จะทำหน้าที่เป็นเกราะปกป้องผิวจากการโดนทำร้ายโดยรังสียูวีจากแสงแดดที่เราต้องเจอในระหว่างวัน

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังคงมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการใช้ครีมกันแดดวนเวียนอยู่ในบทสนทนาเกี่ยวกับสกินแคร์ เราจึงได้พูดคุยกัย พ.ญ. อภิชญา ธันยาวุฒิ แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง และเธอได้แชร์กับเราถึง 5 ความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ครีมกันแดดที่หลายคนอาจยังคงเข้าใจผิดอยู่

ความเชื่อที่ 1: ไม่มีแสงแดด แปลว่าไม่มี UV

“รังสียูวีมีอยู่ทุกที่ รวมถึงวันที่อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ดังนั้นแนะนำให้ทากันแดดให้เป็นนิสัยและเป็นประจำทุกวัน” พ.อภิชญาอธิบายว่าถึงแม้จะมีเมฆหนาๆ แต่มันก็ไม่ช่วยบล็อครังสียูวีไม่ให้ทำร้ายผิวเราได้  โดยผลการวิจัยจากสถาบันด้านผิวหนังอย่าง Skin Cancer Foundation พบว่าเมฆในวันฝนตกสามารถกรองได้น้อยกว่า 25 เปอร์เซนต์ของรังสียูวีที่ทำร้ายผิวเรา

ความเชื่อที่ 2: ทาครีมกันแดดครั้งเดียว กันแดดได้ทั้งวัน 

ใครที่คิดว่าทากันแดด SPF สูงๆ เพียงครั้งเดียวต่อวันก็เพียงพออาจจะต้องคิดใหม่และเริ่มพกกันแดดติดตัวเสียแล้ว “ปริมาณ SPF ที่มีอยู่ในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง โดยหลังจากนั้นประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากการโดนทำร้ายโดยแสงแดดจะลดลง ดังนั้นแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ให้เติมกันแดดทุกๆ 2 ชั่วโมงจะดีที่สุด” พ.อภิชญาเสริมอีกว่าควรมองหากันแดดที่เป็น Broad Spectrum เพราะจะช่วยกันได้ทั้งรังสี UVA และ ​UVB

ความเชื่อที่ 3: เป็นสิวไม่ควรทาครีมกันแดด

สำหรับคนที่กลัวว่าครีมกันแดดจะทำให้สิวที่เป็นแย่กว่าเดิม แนะนำให้ถอยกลับมาดูส่วนผสมของครีมกันแดดก่อนที่จะโบกมือลาการทาครีมกันแดดไปเลย โดย พ.อภิชญาแนะนำว่า “ทุกสภาพผิวควรทาครีมกันแดด สำหรับคนที่กังวลเรื่องการอุดตันจากครีมกันแดดที่ก่อให้เกิดสิวหรือทำให้สิวที่มีอยู่แย่กว่าเดิม แนะนำให้มองหาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมและเนื้อสัมผัสที่ปลอดภัยและเหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เพราะการที่ละเลยการทาครีมกันแดดอาจส่งผลให้แสงแดดกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินที่ทำให้จุดด่างดำจากรอยสิวหายช้าอีกด้วย”

ความเชื่อที่ 4:ใช้แค่ครีมบำรุงผิวหรือรองพื้นที่มีส่วนผสมของ SPF สามารถกันแดดได้เพียงพอ

จริงอยู่ที่มอยซ์เจอไรเซอร์หรือรองพื้นที่มีส่วนผสมของ SPF จะเป็นไอเท็ม 2-in-1 ที่เหมาะกับการพกพาเวลาเดินทาง อย่างไรก็ตามเราไม่ควรพึ่ง ​SPF ที่ผสมอยู่ในสกินแคร์หรือเมกอัพเพียงอย่างเดียว “ควรมีครีมกันแดดแยกต่างหากสำหรับสเต็ปสุดท้ายในการบำรุงผิว เนื่องจากว่าส่วนมากมอยซ์เจอร์ไรเซอร์หรือเมกอัพจะมี SPF อยู่ในปริมาณที่น้อย ซึ่งไม่สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีได้อย่างเพียงพอ ดังนั้นแนะนำให้ทาครีมกันแดดเสริมทัพไปอีกชั้นจะดีกว่า” พ.อภิชญา แนะนำว่าให้มองหาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปและควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที

ความเชื่อที่ 5: อยู่บ้านไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้ 

ใครที่คิดว่าอยู่บ้านไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดจึงไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดอาจจะต้องเปลี่ยนความคิด เพราะอย่างที่แนะนำไปข้างต้นว่ารังสียูวีนั้นมีอยู่ทุกที่และทุกเวลา โดยนอกจากแสงแดดแล้ว ภายในบ้านยังมีแสงจากไฟนีออนและแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือที่คอยจ้องทำร้ายผิวของเราอย่างไม่รู้ตัวด้วย “นอกจากแสงสีฟ้า หรือ  Blue Light ที่พบได้ในแสงแดดจ้าๆ แล้ว แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคต่างๆ ก็สามารถทำร้ายผิวของเราได้ไม่แพ้รังสียูวีเลย” พ.อภิชญา อธิบายถึงผลกระทบของแสงสีฟ้าที่มีต่อผิวว่า เป็นตัวการที่ก่อให้เกิด Photo-Aging หรือผิวที่ร่วงโรยก่อนวัยจากการเผชิญกับแสงสีฟ้าเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีเกราะป้องกัน ดังนั้นแนะนำให้ปกป้องผิวด้วยสกินแคร์ที่มีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและทาครีมกันแดดแบบ ​​Broad Spectrum ทุกๆ วันไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือออกไปข้างนอก

ผลิตภัณฑ์กันแดดที่SAVV SKINแนะนำ:

Cellular Protection Sun Cream SPF 50 จาก The Organic Pharmacy

ครีมกันแดดแบบ Physical เนื้อบางเบาที่มอบทั้งการป้องกันจากรังสียูวีด้วย SPF 50 และช่วยเติมความชุ่มชื่นสู่ผิว มีส่วนผสมของ Titanium dioxide และ Zinc oxide ที่ช่วยบล็อครังสี UVA  และ UVB สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย บำรุงและปลอบประโลมผิวด้วยสารสกัดจาก โรสฮิป คาเลนดูลา อโลเวร่าและเชียร์บัตเตอร์ 

Radiant Day Shield จาก The Organic Pharmacy

ครีมกันแดดเนื้อเซรั่มบางเบาช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยทำร้ายผิวจากสิ่งแวดล้อมและรังสียูวีต่างๆ มาพร้อมคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความโกลว์ให้ผิวแลดูสุขภาพดี ด้วยการผสานสารต้านอนุมูลอิสระจาก Grape Stem cells และ Pomegranate oil 

teamdev02

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are makes.